ไฮโล เป็นเกมพนันชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยมีประวัติอันยาวนานกว่า 100 ปี เชื่อกันว่าเกมนี้มีต้นกำเนิดในประเทศจีน และแพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ไฮโลเป็นเกมที่เล่นง่าย กฎกติกาไม่ซับซ้อน ผู้เล่นเพียงต้องทายผลรวมของลูกเต๋าสามลูกที่เขย่าออกมา ว่าแต้มจะออกมาสูงหรือต่ำ โดยแต้มสูงสุดคือ 11 แต้ม และต่ำสุดคือ 3 แต้ม
วิธีการเล่นไฮโล
ไฮโลเป็นเกมที่เล่นง่าย ขั้นตอนการเล่นมีดังนี้
- เตรียมอุปกรณ์ อุปกรณ์ที่ใช้เล่นไฮโลมีดังนี้
- ลูกเต๋า 3 ลูก
- กระดานไฮโล
- ชิปเดิมพัน
- วางเดิมพัน ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันได้หลายรูปแบบ ดังนี้
- สูง-ต่ำ ทายว่าแต้มรวมของลูกเต๋าจะออกมาสูงหรือต่ำ โดยแต้มสูงคือ 11 แต้ม และต่ำคือ 3 แต้ม
- เต็ง ทายแต้มของลูกเต๋า 1 ลูก โดยทายได้ตั้งแต่ 1 ถึง 6 แต้ม
- โต๊ด ทายแต้มของลูกเต๋า 2 ลูก โดยทายได้ตั้งแต่ 2 ถึง 12 แต้ม
- คู่-คี่ ทายว่าแต้มรวมของลูกเต๋าจะเป็นคู่หรือคี่
- เรียงสูง-เรียงต่ำ ทายว่าแต้มของลูกเต๋าจะเรียงจากมากไปน้อยหรือน้อยไปมาก
- เขย่าลูกเต๋า เจ้ามือจะเขย่าลูกเต๋า 3 ลูกในถ้วยทึบ
- เปิดผลรวมของลูกเต๋า เจ้ามือจะเปิดผลรวมของลูกเต๋าที่เขย่าออกมา
- จ่ายเงินรางวัล ผู้เล่นที่ทายถูกจะได้รับเงินเดิมพันตามอัตราจ่ายที่กำหนด
อัตราจ่ายของ ไฮโล
อัตราจ่ายของไฮโลมีดังนี้
- สูง-ต่ำ อัตราจ่าย 1:1
- เต็ง อัตราจ่าย 1:1
- โต๊ด อัตราจ่าย 1:2
- คู่-คี่ อัตราจ่าย 1:1
- เรียงสูง-เรียงต่ำ อัตราจ่าย 1:5
ตัวอย่างการเล่น ไฮโล
ตัวอย่างที่ 1
ผู้เล่นวางเดิมพันสูง 100 บาท และทายโต๊ด 20 บาท
ผลรวมของลูกเต๋าที่เขย่าออกมาคือ 11
ผู้เล่นทายถูกทั้ง 2 แบบ จึงได้รับเงินรางวัลดังนี้
- สูง 100 บาท x 1 = 100 บาท
- โต๊ด 20 บาท x 2 = 40 บาท
ตัวอย่างที่ 2
ผู้เล่นวางเดิมพันเต็ง 6 100 บาท
ผลรวมของลูกเต๋าที่เขย่าออกมาคือ 6
ผู้เล่นทายถูก จึงได้รับเงินรางวัล 100 บาท x 1 = 100 บาท
เทคนิคการเล่น ไฮโล
ผู้เล่นสามารถเรียนรู้เทคนิคการเล่นไฮโลอีกมากมาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะเกม เช่น
- ศึกษากฎกติกาและกลไกของเกมให้เข้าใจ
- เลือกเกมที่มีอัตราจ่ายสูง
- กำหนดวงเงินในการเล่น
- รู้จักพอเมื่อได้กำไร
ข้อควรระวังในการเล่นไฮโล
การพนันเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ผู้เล่นควรศึกษากฎกติกาและกลไกของเกมให้เข้าใจก่อนเล่น และควรจำกัดวงเงินในการเล่นไม่ให้เสียเงินมากเกินไป